คำแนะนำ ประเมินซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม จากนักวางแผนการเงิน

นักวางแผนการเงินได้แบ่งหมวดหมู่ของรายจ่าย
การซ่อมบ้านดังนี้

1. รายการที่จำเป็นและเร่งด่วน
เป็นสิ่งที่จะทำให้บ้านของคุณสามารถ
กลับเข้ามาอยู่อาศัยได้เหมือนเดิมอย่างปลอดภัย
เช่น การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำล
การซ่อมแซมฐานราก โครงสร้าง และตัวบ้าน
การตรวจสอบและซ่อมแซมระบบไฟฟ้า
และประปาให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน

2. รายการที่จำเป็นแต่ไม่เร่งด่วน
เป็นสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวก
ในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น
การซ่อมแซมและซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่
การซ่อมรถยนต์การปลูกและฟื้นฟูต้นไม้
และสวนบริเวณบ้าน
รวมถึงการปรับปรุงบ้านเพื่อป้องกันน้ำท่วม

3. รายการที่ไม่จำเป็นและไม่เร่งด่วน
เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน
เช่น ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ

แม้ว่าน้ำจะลดลงไปแล้ว แต่คุณอาจมีภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันต่างๆ เกิดขึ้น เช่น ค่าขนย้ายข้าวของกรณีที่คุณต้องย้ายที่อยู่ช่วงน้ำท่วมค่าใช้จ่ายบางรายการในชีวิตประจำวันที่เพิ่มสูงขึ้น ค่ารักษาพยาบาลจากโรคต่างๆ ที่มากับน้ำ เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู ดังนั้น คุณควรกันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ส่วนหนึ่ง อย่างน้อยสัก 1-3 เดือนของค่าใช้จ่ายยามปกติ

 

นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากเพื่อให้บ้านของคุณสามารถกลับมาใช้อยู่อาศัยได้ดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นการขัดพื้น ขัดผนัง ทำความสะอาดกำแพงรั้ว และทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ขนย้ายและโดนน้ำท่วมขัง รวมไปถึงการทำความสะอาดพื้นที่บริเวณรอบบ้าน และท่อระบายน้ำซึ่งอาจเกิดการอุดตันจากขยะและดินโคลนที่มาพร้อมกับน้ำ

 

ถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฐานรากและโครงสร้างของบ้าน เช่น การขัดสนิมออกจากเหล็กภายในโครงสร้างของบ้าน รวมไปถึงอาการซ่อมแซมองค์ประกอบภายในบ้านอื่นๆ เช่นการปูพื้นใหม่ การขัดลอกและทาสีผนังใหม่หรือติดวอล์เปเปอร์ การซ่อมแซมประตูและหน้าต่างที่ชำรุด

 

ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าภายในบ้านปลั๊กไฟ สวิทช์ไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่นตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องปั้มน้ำ ฯลฯ นับเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ของการซ่อมแซมเลยก็ว่าได้ เพราะหากไม่ตรวจสอบความพร้อมและซ่อมแซมให้ปลอดภัยต่อการใช้งานแล้วล่ะก็ อาจก่อให้เกิด “ไฟดูด” และ “อัคคีภัย” ตามมาต่อจาก “อุทกภัย” ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น แทนที่คุณจะได้รับการปฐมพยาบาลทางการเงิน ก็อาจจะเข้าขั้น “พิการซ้ำซ้อน” กันเลยทีเดียว

 

จัดป็นสิ่งที่มีความสำคัญรองลงมาจากการซ่อมแซมโครงสร้าง ตัวบ้าน และ ระบบไฟฟ้า เพราะสิ่งเหล้านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ เช่น เฟอร์นิเจอร์ Built-in โซฟา ตู้เก็บของ โต๊ะ เก้าอี้ ควรตรวจสอบสภาพว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ รวมถึงประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม เพราะหากค่าใช้จ่ายสูงเกินไปควรนำไปขายเพื่อให้ได้เงินไปซื้อของใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

 

เมื่อน้ำท่วมขังนานๆ อาจทำให้ต้นไม้ที่รักของคุณตาย โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดเล็กและต้นหญ้า ซึ่งไม่สามารถฟื้นฟูได้ และคงต้องเริ่มปลูกกันใหม่ ในขณะที่ต้นไม้ใหญ่ก็อาจอ่อนแอใกล้ตาย วิธีแก้ก็คือ คุณต้องรีบจัดการน้ำที่ขังอยู่บริเวณรากไม้ รวมทั้งหมั่นตรวจสอบและฟื้นฟูสภาพของดิน เพื่อให้ต้นไม้แสนรักกลับมาแข็งแรงดังเดิม

 

จากบทเรียนครั้งนี้ หลายคนคงคิดถึงวิธีการที่จะต่อเติมเสริมแต่งให้บ้านของคุณแข็งแรงสามารถป้องกันภัยน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ถือคติที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้นับว่ามากพอควร ไม่ว่าจะเป็นการยกพื้นบ้านให้สูงกว่าระดับพื้นถนน การเปลื่ยนรั้วบ้าน การแยกวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน หรือการปรับเปลื่ยนตำแหน่งปลั๊กไฟให้สูงขึ้นพ้นน้ำ ซึ่งในช่วงที่น้ำลดใหม่ๆ ราคาวัสดุก่อสร้างจะเพิ่มสูงขึ้น แถมยังหาผู้รับเหมาที่ชำนาญในเรื่องนั้นจริงๆ ได้ยากในช่วงนี้ หากรอไปอีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณใจร้อนและเงินของคุณเหลือพอ จะทำทันทีก็คงไม่ว่ากัน ืทื 

Comments