ทำไมต้องประกันชีวิต?

ทำไมต้องประกันชีวิต?…

1. ให้ความคุ้มครองต่อครอบครัว

เป็นการประกันสำหรับผู้ที่เป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว กล่าวคือ ถ้าเกิดหัวหน้าครอบครัว ซึ่งถ้าบังเอิญเคราะห์ร้าย เกิดมีอันเป็นไปไปก่อนระยะเวลาอันสมควร สมาชิกในครอบครัวก็จะได้รับผลกระทบ ประสบความลำบาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นบุคคลที่เป็นหัวหน้าครอบครัวควรมีความรักและห่วงใยในครอบครัว เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต โดยการวางแผนทำประกันชีวิตไว้เพื่อให้ภรรยาและลูกได้มีเงินที่จะเอาไว้ใช้เลี้ยงดูตัวเอง ตลอดจนถึงการศึกษาของลูกและการดำรงชีวิตต่อไป

 

2 ให้ประโยชน์ในการออมทรัพย์

ในการทำประกันชีวิตตามปกติแล้วเมื่อครบ 2 ปีเป็นต้นไป จะมีเงินปันผล ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนปีที่ผ่านไป ตัวผู้เอาประกันทรงไว้ซึ่งสิทธิ์ตลอดเวลาในจำนวนเงินนี้ ซึ่งสามารถใช้ได้ในกรณีฉุกเฉินหรืออื่นใด เป็นการสร้างเงินออมให้แก่ผู้เอาประกันได้อย่างมีเป้าหมายแน่นอน เป็นการตั้ง “กองทุนยามฉุกเฉิน” ที่ดีที่สุด เช่น เอาไว้ใช้ยามเกษียณ ยามชรา หรือเพื่อการศึกษาลูก

 

3 ให้ประโยชน์ในด้านการลงทุน

การทำประกันชีวิตก็คือการลงทุนแบบหนึ่ง ซึ่งผลคือความคุ้มครองแก่ผู้เป็นที่รัก เป็นประกันต้นทุนที่ไม่เสื่อมบวกกับการออมทรัพย์ ส่วนผลกำไรเป็นผลพลอยได้ในลำดับต่อมา การลงทุนในประกันชีวิตเป็นผลที่ได้แน่นอนไม่มีความเสี่ยงเหมือนการลงทุนในกิจกรรมอื่นๆ เป็นการลงทุนจากชีวิตเพื่อชีวิตให้มีหลักประกันที่แน่นอน

 

4 การประกันชีวิตช่วยให้มีรายได้ยามเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และชราภาพ

ในปัจจุบันการประกันชีวิตได้มีวิวัฒนาการแบบต่างๆ มาตามลำดับ เพื่อสนองความต้องการของผู้เอาประกัน เช่นการประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ การประกันโรคร้าย การประกันการเจ็บป่วยเป็นต้น ซึ่งในกรณีเจ็บป่วยผู้เอาประกันสามารถมีรายได้ในยามเจ็บป่วย และรายได้สำหรับเลี้ยงตนเองในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิง หรือได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลในยามที่ผู้เอาประกันบาดเจ็บ รักษาตัวในโรงพยาบาล ตลอดถึงการมีเงินใช้สอยในยามชรา ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การประกันชีวิตไม่ได้หมายถึงการช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียรายได้อันเนื่องมาจากการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยแก้ปัญหารายได้อันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยทุพพลภาพและชราภาพอีกด้วย

 

5 การประกันชีวิตก่อให้เกิดอุปนิสัยการประหยัดและความรู้สึกรับผิดชอบต่อครอบครัว

การประกันชีวิตเหนือสิ่งอื่นใดคือเป็นการปลูกฝังอุปนิสัยการประหยัเในคนทุกคน ให้รู้จักการคาดคะเนถึงภัยอันจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า เป็นการเตรียมตัวสร้างหลักประกันให้ครอบครัว ไม่คำนึงถึงความสุขเฉพาะหน้า และไม่ทิ้งภาระและความลำบากให้แก่คนข้างหลังเมื่อเราจากไป เป็นการทำหน้าที่ของความเป็นคนได้อย่างสมบูรณ์ เป็นความรักและรับผิดชอบอย่างแท้จริง

 

6 การประกันชีวิตคือการระดมเงินออมเป็นทุนพัฒนาประเทศ

การประกันชีวิตเป็นบ่อเกิดการออมระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศ เป็นแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถให้ภาคเอกชนและรัฐบาลกู้ไปใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศได้มากมาย เพราะเงินที่ผู้เอาประกันได้ชำระให้แก่บริษัทในรูปแบบของเบี้ยประกัน เมื่อนำมารวมกันแล้วก็จะได้เป็นเงินก้อนใหญ่ ดังนั้นการประกันชีวิตนอกจากจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินแก่ผู้เอาประกันชีวิตแล้ว ยังเป็นเป็นสถาบันการเงินที่สำคัญในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าอีกด้วย

 

7 ส่งเสริมสันติสุขและความปลอดภัยในสังคม

ความปรารถนาสูงสุดของมนุษย์คือการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข มีความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต กล่าวคือไม่มีความวิตกกังวลในอนาคตข้างหน้า ปัจจัยในการดำรงชีวิตที่มีอยู่ จะต้องมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการสะดุดหยุดลง การประกันชีวิตเป็นการชดใช้การสูญเสียรายได้อันเนื่องมาจากการสูญเสียชีวิต ทุพพลภาพ ชราภาพเป็นการประกันความคงอยู่ของรายได้ ประกันความคงอยู่ของปัจจัยในการดำรงชีวิต นั้นคือเป็นการประกันความสุขและความมั่นคงปลอดภัยของมนุษย์นั่นเอง

Comments