ส่วนที่สำคัญที่สุดของการตลาดสำหรับด่านหน้า คือ Experience
ถ้าไม่ครบ 3 องค์ประกอบนี้ทำธุรกิจไม่ได้คือ
- ไม่มีลูกค้าที่อยากได้สินค้าเรามากพอ
- ไม่มีวิธีการที่จะนำไปถึงลูกค้านั้น
- คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้บริการสินค้าเรา คือไม่มีประสบการร่วมกับสิ่ง ๆ นั้นมาก่อน
วันนี้จะมาแชร์ไอเดียประสบการณ์จับจังหวะด้านหัวใจมนุษย์
เช่น การหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เป็น TouchPoint
ทุกอย่างที่มากระทบกับอายตนะทั้ง 5 เราเรียกว่า TouchPoint
ตอนนี้แบรนด์ต่างประเทศโฟกัสกันไม่ใช่ที่คอนเทนต์แล้ว
เป็นการทำธุรกิจบริการจับใจ เป็นเทรนด์ของต่างประเทศมากในตอนนี้
แบรนด์ใหญ่ ๆ คิดเรื่อง Wow Factor กัน
ซึ่งการคิดแบบนี้ออกมาได้ทำให้ธุรกิจของเขาแตกต่างลูกค้าประทับใจ
ลูกค้าบอกต่อและจงรักภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
Moment of Truth เสี้ยวนาที่ที่คนรู้สึกกับเราซึ่งเป็นความจริง
MACRO เช่น โทรศัพท์มือถือ
MICRO เช่น เลือกApp
NANO เช่น มองหาสิ่งที่แก้ปัญหาตนเอง
สินค้าที่ออกแบบมาเพื่อใครบางคน
IGNITE จุดไฟให้เค้าได้ จะสร้างอารมณ์ในการซื้อหรือบอกต่อให้เขา
ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องราวปัจจุบัน
ส่วนใหญ่คนที่วางแผนจะวางแผนการเดินทางให้ลูกค้าเพียงเส้นเดียว
เช่นบอกไม่ถนัดออนไลน์ เลยขอไปออฟไลน์อย่างเดียว
มันทำให้ถูกตัดโอกาสตัวเองไปอีกหลายทาง
เราควรจะรู้ว่าหากเราผิดหวังในเส้นทางนี้เราจะไปเจอเส้นทางไหนอีกได้บ้าง
ที่ทำให้เกิดผล100เปอร์เซ็นต์
การทำธุรกิจเราจะต้องมองภาพใหญ่ให้ออกก่อน
และจะมีคนมาบอกจิ๊กซอว์ตัวนั้นให้เราฟังก่อน
เสร็จแล้วเราจะไปดูว่าจะใช้อะไรให้เกิดความสำเร็จเกิดขึ้น
การเรียงกลุ่มคนที่ชัดขึ้นมาก่อน จะทำให้ที่เหลือมันง่าย
เช่นการที่เราจะคิด Journey การที่จะคิดคอนเทนต์
หรือการหาโมเมนต์ที่จะไปทำให้เขารู้สึกจับไปถึงหัวใจได้
ถ้าไม่รู้จะพูดให้ใครฟังหรือกลุ่มลูกค้าเป็นใครเราจะใช้ความคิดยากมาก
เพราะเราคิดว่าเราขายทุกคนได้หมด
Journeyมันจะไม่ออกมา
จะไม่เป็น Roadmap ที่ชัดเจน
พอเรารู้ชัดเจนเราจะรู้ว่าเราอ่อนตรงไหน
ต้องแก้ไขตรงไหน
ส่วนเรื่องการขายแบบ Touchpoint เป็นเรื่องที่ดี
เพราะเราอาจจะเป็นการขายที่ไม่ได้ลดราคา
แต่เป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มความประทับใจให้เขาจริง ๆ
ตอนนี้ปี 2020 ผู้ชนะในเกมจะเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อย
การทำ Persona ลูกค้า
การวาง Journey ลูกค้า
รวมไปถึงการคิดถึงในระดับ IGNITE Moment
ให้เข้าใจว่าเขาจะได้รับประสบการณ์อะไร
จึงมีความสำคัญในกระบวนการ การขายที่ไม่มีใครสอน
เพราะเวลาที่ Sale จะไปขายเราจะพูดถึงตัวเลขและยอดขาย
แปลว่าเขาคิดมาแล้วว่าทุกคนนั้นคิดได้
ไม่มีใครบอกว่าให้ใช้ชีวิตให้ช้าลงแล้วใส่ใจรายละเอียดของลูกค้ามากขึ้น
เพราะทุกคนต้องโฟกัสยอดขายจนลืม การใส่ใจ
มนุษย์ชอบความเห็นอกเห็นใจ
มนุษย์ชอบความใส่ใจกัน
และทำไมเขาจะต้องซื้อกับคุณและทำไมต้องซื้อในเวลานี้
มันเป็นเรื่องของ Show your care
แสดงออกอีกหน่อยว่าคุณใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย
ถ้าเรารู้ เราก็จะทำให้เขารักก่อนการขายได้
และหลังการขายเราจะทำให้เขาไปบอกต่อและซื้อซ้ำได้
นี่คือความลับของธุรกิจ ของหลาย ๆ ธุรกิจ
ต่อให้ได้ความคิดนี้ไปแต่ทุกคนก็ไม่สามารถทำได้เหมือน ๆ กัน
การมองหา Persona ที่เป็นลูกค้าในฝันของแต่ละคน
แม้เราจะทำสินค้าคล้าย ๆ กัน
เพราะสินค้าประกันคล้ายกันเหมือนกัน
แต่ด้วยวิธีการคิด Need หรือ Persona ที่ต่างกัน
จะช่วยทำให้พบลูกค้าในฝันและแน่นอน
ถ้าเรามีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนจะทำให้เราทำการตลาดได้ง่าย
และการทำสิ่งที่โดดเด่นได้ต้องเกิดจากวิธีคิดที่ถูกต้อง
ซึ่งจะต่อไปถึง Customer Journey
สิ่งหนึ่งที่จะได้ประโยชน์มาก ๆ คือมาทำ workshop ด้วยกัน
จะได้มุมมองที่แลกเปลี่ยนแตกต่างกันที่มันหลากหลาย
ถ้าเราคิดคนเดียวก็จะมีมุมมองแค่เรื่องเดียว
แต่ถ้ามุมมองมันมาจากหลาย ๆ คน หลายหน่วย หลายแบรนด์
มันจะเกิดออกมาเป็นภาพใหม่ หลาย ๆ แบรนด์
หลายหน่วย หลาย Persona
ดู Live เต็มได้ที่ วีดีโอด้านล่างเลยค่ะ
Comments